งานวิจัยขั้วโลกใต้ Thai Antarctic Expedition 2025
- Siam Sopha
- Jun 16
- 1 min read
ณ ดินแดนสุดขอบโลก ทวีปแอนตาร์กติก ทวีปแห่งความลี้ลับและความท้าทายทางวิทยาศาสตร์ ที่ซึ่งความร่วมมือระหว่างประเทศได้เบ่งบานอย่างงดงาม
โดย สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีบทบาทสำคัญในการผลักดันความร่วมมือด้านการศึกษาวิจัยวิทยาศาสตร์ขั้วโลกใต้ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน
ซึ่งในปีพุทธศักราช 2536 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นพระราชวงศ์ไทยพระองค์แรก และเป็นคนไทยคนแรก ที่ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนทวีปแอนตาร์กติก ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกลและพระราชหฤทัยที่ทรงให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ ทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญของการศึกษาและวิจัยในพื้นที่ขั้วโลก ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญในการทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จากพระราชดำริ สู่การสานความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม
ในปีพุทธศักราช 2556 ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจกับสถาบันวิจัยขั้วโลกแห่งประเทศจีน ภายใต้การสนับสนุนและส่งเสริมจากรัฐบาลทั้งสองประเทศ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการร่วมกันดำเนินงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในทวีปแอนตาร์กติก ความร่วมมือนี้เปิดโอกาสให้นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยชาวไทยได้มีโอกาสอันล้ำค่าในการเข้าร่วมสำรวจและศึกษาวิจัยในสภาพแวดล้อมจริงของทวีปแอนตาร์กติก ทำงานร่วมกับนักวิทยาศาสตร์จีนผู้มีประสบการณ์ เป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่สำคัญ และเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการในระดับนานาชาติ ผลจากการศึกษาวิจัยร่วมกันนี้ นำมาซึ่งข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญ ในการศึกษาผลกระทบของขยะทะเล ไมโครพลาสติก และการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่มีต่อสัตว์ทะเล และระบบนิเวศทางทะเล ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการทำความเข้าใจผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย
ความร่วมมือด้านการศึกษาวิจัยวิทยาศาสตร์ขั้วโลกใต้ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้พระบารมีของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์แห่งความสำเร็จ ที่แสดงให้เห็นถึงพระวิสัยทัศน์อันกว้างไกล และความมุ่งมั่นในการส่งเสริมองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ของไทยให้ก้าวหน้า เพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติและมวลมนุษยชาติสืบไป
Comments